เมื่อวันที่
27
กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เอลอน มัสก์ ผู้บริหารระดับสูงของสเปซเอกซ์
ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการบินอวกาศเอกชน
เปิดเผยถึงแผนขององค์การในการส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้งในปลายปีหน้า
นี่จะเป็นการไปดวงจันทร์ครั้งแรกของมนุษย์ในรอบ
45
ปี
เที่ยวบินของสเปซเอกซ์นี้ไม่ใช่ภารกิจสำรวจดวงจันทร์หรือสำรวจอวกาศ
แต่เป็น
“ทัวร์ชมดวงจันทร์”
โดยเที่ยวบินแรกจะมีผู้โดยสารอวกาศสองคน
เดินทางไปกับยาน
ดรากอน
2
ที่พุ่งทะยานด้วยพลังขับของจรวดฟอลคอนเฮฟวี
ยานดรากอน
2
เป็นยานขนส่งมนุษย์อวกาศ
สามารถลงจอดบนพื้นโลกได้ทั้งทางทะเลและบนบก
ขนส่งมนุษย์ได้คราวละเจ็ดคน
ยานดรากอน
2
จะถูกนำออกใช้งานครั้งแรกในกลางปีหน้าโดยการนำนักบินอวกาศของนาซาไปปฏิบัติหน้าที่บนสถานีอวกาศนานาชาติ
จรวดฟอลคอนเฮฟวี
เป็นจรวดขับดันที่ทรงพลังที่สุดรองจากแซทเทิร์นของนาซาที่ใช้ในการนำมนุษย์ไปดวงจันทร์
โครงสร้างพื้นฐานคือจรวดฟอลคอน
9
สามลำยึดติดกันเพื่อให้พลังขับดันสูงสุด

จนถึงขณะนี้
สเปซเอกซ์ยังไม่เปิดเผยว่าผู้โดยสารอวกาศสองคนนั้นเป็นใคร
ลักษณะการเดินทางของเที่ยวบินทัศนาจรดวงจันทร์ของดรากอนนี้จะคล้ายกับของอะพอลโล
8
มาก
เป็นการวนรอบดวงจันทร์โดยไม่มีการลงจอด
ระบบต่าง
ๆ
ในยานเป็นระบบอัตโนมัตเกือบทั้งหมด
ผู้โดยสารไม่ต้องบังคับหรือควบคุมยานแต่อย่างใด
หน้าที่มีเพียง
นั่ง
แล้วมองไปนอกหน้าต่าง
มีเรื่องที่ต้องฝึกฝนบ้างก็คือการเตรียมความพร้อมร่างกายและเรียนรู้ขั้นตอนปฏิบัติสำหรับเกิดเหตุผิดพลาดขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
ผู้สันทัดกรณีชี้ว่าการประกาศครั้งนี้ของสเปซเอกซ์ถือว่าท้าทายตัวเองเป็นอย่างมาก
จนกังวลว่าสเปซเอกซ์อาจทำไม่ได้ตามกำหนดเวลาที่วางไว้
ในอดีตที่ผ่านมาแผนพัฒนาของสเปซเอกซ์ก็มักล่าช้ากว่ากำหนดหลายครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น
สเปซเอกซ์ได้ประกาศสร้างจรวดฟอลคอนเฮฟฟีมาตั้งแต่ปี
2548
แต่กว่าจะเริ่มสร้างจริงก็ล่วงมาถึงปี
2558
และจนถึงขณะนี้
ก็ยังไม่เคยมีการปล่อยจรวดฟอลคอนเฮฟวีเลย
จรวดนี้จะใช้งานได้จริงหรือไม่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้